การปั่นจักรยานถือเป็นการออกกำลังกายประเภทหนึ่งเพราะฉะนั้นหลังจากการออกกำลังกายแล้วการฟื้นฟูร่างกายถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อที่จะไม่ให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนล้าหรือเกิดการบาดเจ็บได้ เมื่อเป็นเช่นนี้หลังการปั่นจักรยานเสร็จจึงต้องรู้จักวิธีการฟื้นฟูร่างกายให้ถูกต้อง การฟื้นฟูร่างกายหลังจากการปั่นจักรยานจริงๆ แล้วก็อาจไม่ได้แตกต่างหลังการออกกำลังกายประเภทอื่นมากนัก แต่ก็มีเทคนิคดีๆ ที่นักปั่นจักรยานทั้งหลายควรรู้เพื่อที่จะได้นำไปใช้อย่างถูกวิธีและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

1. การวอร์มดาวน์ – หลังจากมีการออกกำลังกายหนักๆ อย่างการปั่นจักรยานเป็นระยะทางไกลๆ หรือปั่นอย่างหนักหน่วงมาอย่าพึ่งรีบลงจากรถในทันทีควรมีการปั่นในลักษณะของวอร์มดาวน์ต่ออย่างน้อย 10 นาทีหรืออีกราว 2-3 กม. เพื่อเป็นการลดปริมาณกรดแลคติคที่อยู่ในกล้ามเนื้อนอกจากนี้ยังเป็นการปรับอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจให้เป็นปกติ

2. การยืดเส้น – หลังวอร์มดาวน์เสร็จแล้วก็ควรมีการยืดเส้นเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อมีอาการตึงหรือปวดเมื่อยไปมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดีขึ้น เพิ่มระยะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้ออีกด้วย

3. เรื่องของน้ำ – จริงๆ แล้วถ้าหากรู้ว่าร่างกายเสียน้ำหลังการปั่นจักรยานไปเท่าไหร่ให้ลองชั่งน้ำหนักตอนก่อนปั่นและหลังปั่น ให้ทำการวัดช่วงความต่างของน้ำหนักแล้วดื่มน้ำตามไปให้พอเพียงกับน้ำที่เสียไป อย่าดื่มนมสดมากเพราะมีไขมันร่างกายจะย่อยยาก

4. เรื่องของอาหาร – ปกติแล้วการปั่นจักรยานประเภทอาหารที่ร่างกายต้องการมากที่สุดก็คือคาร์โบไฮเดรตกับโปรตีนซึ่งจริงๆ แล้วหลังการปั่นจักรยานเสร็จเรียบร้อยอย่าพึ่งทานอาหารในทันทีให้ทำการวอร์มดาวน์พร้อมการยืดกล้ามเนื้อให้เสร็จสิ้น จากนั้นให้พักผ่อนร่างกายอีกหน่อยแล้วค่อยทานอาหาร การทานอาหารหลังการปั่นจักรยานเราสามารถเลือกทานอาหารได้ตามปกติเหมือนมื้ออาหารทั่วไปแต่สิ่งที่ต้องระวังก็คืออาหารที่ส่งผลเสียกับร่างกายพวกอาหารฟาสต์ฟู๊ด อาหารทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารไขมันสูง ซึ่งอาหารที่เหมาะสมก็ควรมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ไม่มันและผักรวมอยู่ด้วย

5. การปั่นแบบสบายๆ – จริงๆ แล้วก็คล้ายกับการวอร์มดาวน์เพียงแต่ว่าการปั่นในลักษณะนี้อาจเป็นการปั่นต่อเนื่องหลังการออกกำลังกายแล้ว เป็นการช่วยผ่อนคลายร่างกายและยังช่วยให้ปอดได้รับอากาศบริสุทธิ์อีกด้วยหากปั่นในพื้นที่ที่มีต้นไม้เยอะและไม่มีมลพิษ
6. การนอน – ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายตื่นขึ้นมาสดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่เสมอ
การดูแลร่างกายตัวเองทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นก่อนปั่นหรือหลังปั่นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเพื่อการมีสุขภาพที่ดีและยังช่วยให้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บอีกด้วย